โครงการพี่เลี้ยงสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีการเงินในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ช่วยแนะผู้ประกอบการใหม่ในการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ ๆ
เอคเซนเชอร์ (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ACN) เปิดรับสตาร์ตอัพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสำหรับโครงการ FinTech Innovation Lab ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เฟ้นหาผู้ประกอบกิจการเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) ช่วงเริ่มต้นหรือกำลังเติบโต มาเข้าโครงการระยะ 12 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และธุรกิจ พร้อมพบปะผู้บริหารจากสถาบันการเงินด้วย ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ทางเว็บไซต์ www.fintechinnovationlab.com ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2559
รายงานล่าสุดของเอคเซนเชอร์เรื่อง “ฟินเทคและภาวะแวดล้อมในตลาดยุคใหม่”(FinTech and the Evolving Landscape) แสดงให้เห็นแนวโน้มการลงทุนในกิจการฟินเทคแถบเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 การลงทุนมีมูลค่ารวม 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 51% ของ 53,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ลงทุนในกิจการด้านฟินเทคทั้งหมดทั่วโลก
“เราหารือกับสถาบัน การเงินทั่วทั้งเอเชียเกี่ยวกับกิจการฟินเทค เพราะผู้บริหารต่างต้องการทราบว่าจะลงทุนในโซลูซั่นใหม่ ๆ ที่ล้ำหน้ากว่าใครได้อย่างไร จะพัฒนาหรือซื้อโซลูชั่นเหล่านั้นเพื่อต่อยอดบริการสำหรับลูกค้าดีหรือไม่” นนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการประจำเอคเซนเชอร์ประเทศไทย กล่าว “จึงเป็นเหตุผลว่า ในปีที่สามของการทำฟินเท็คอินโนเวชั่นแล็บ เราจึงเพิ่มจำนวนสถาบันการเงินจาก 12 เป็น 20 แห่ง และเพิ่มจำนวนการรับกิจการเข้ามาในโครงการเพิ่มจาก 12 เป็น 17 และขยายให้ครอบคลุมถึงธุรกิจประกันด้วย”
ฟินเทค อินโนเวชั่น แล็บ เอเชียแปซิฟิก เป็นโครงการสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีล้ำยุคที่จะสร้างการ เปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเงิน โดยเฉพาะด้านบิ๊กดาต้า อนาลิติกส์และค็อกนิทีฟ คอม- พิวติ้ง การจัดการด้านความปลอดภัยและการระบุตัวตน การบริหารความเสี่ยงและการปฎิบัติตามข้อกำหนด การตลาดดิจิทัลและสื่อสังคม คลาวด์ การชำระเงิน เทคโนโลยีบล็อกเชน การบริหารทาเลนต์ และแอพพลิเคชั่นที่รองรับอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์
ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีและผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลด้านนี้ จากสถาบันการเงินต่าง ๆ จะคัดเลือกกิจการฟินเทค 12 แห่ง ให้เข้ามาพัฒนาและให้คำปรึกษาอย่างเข้มข้นที่แล็บในฮ่องกง
สำหรับ สถาบันการเงินหลัก 12 แห่งที่ให้การสนับสนุนได้แก่ แบงก์ออฟอเมริกา เมอร์ริลลินช์ บีเอ็นพีพาริบาส์ คอมมอนเวลธ์แบงก์ออฟออสเตรเลีย เครดิตสวิส เจนเนอราลี โกลด์แมนซาคส์ เอชเอสบีซี เจพี มอร์แกน เมย์แบงก์ มอร์แกนสแตนเล่ย์ ซันไลฟ์ไฟแนนเชียล และยูบีเอส เป็นต้น
กิจการ ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องมีเทคโนโลยีฉบับเบต้าที่ใช้งานได้ใน ปัจจุบัน โดยเดอะแล็บจะเริ่มดำเนินการในเดือนสิงหาคม 2559 ทำงานร่วมกับฟินเทคที่คัดเลือก พร้อมมีผู้บริหารระดับสูงของธนาคารและบริษัทประกัน เจ้าของกิจการด้านเทคโนโลยีชั้นนำ เข้ามาช่วยปรับทิศทางและพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ผ่านเวทีเวิร์กช็อป เสวนา รับฟังความคิดเห็นผู้ใช้ เน็ตเวิร์คกิ้ง ประชุมกลุ่มย่อย และการนำเสนอข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทไซเบอร์พอร์ตจะสนับสนุนสถานที่ทำงานแก่เจ้าของกิจการที่เข้าร่วม บริษัทเจพลัสโฮเต็ล บาย ยู จะสนับสนุนโรงแรมที่พัก โดยทางแล็บจะจัดงาน Demo Day ในเดือนพฤศจิกายน 2559 เพื่อนำเสนอข้อมูลจากกิจการที่ได้รับคัดเลือกเข้าในโครงการ ต่อหน้ากลุ่มผู้ฟังซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนเวนเจอร์แคปปิตอล และผู้บริหารจากแวดวงการเงิน
จากข้อมูลในรายงานเรื่อง “ฟินเทคและสภาพแวดล้อมในตลาดยุคใหม่” ที่จัดทำโดยเอคเซนเชอร์เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นว่า มูลค่าการลงทุนในกิจการฟินเทคทั่วโลกในปี 2558 เพิ่มขึ้นมากกว่า 22,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในเอเชีย
You must be logged in to post a comment.