รัฐอานธรประเทศ หนึ่งในรัฐที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงไต้ของประเทศอินเดีย และธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ประกาศความร่วมมือในการส่งเสริมนวัตกรรมฟินเทคที่มุ่งเน้นในด้านบล็อกเชน และการชำระเงินดิจิตอล

การลงนามใน “ข้อตกลงความร่วมมือด้านฟินเทค” ที่มีขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในอินเดียแสดงให้เห็นว่า MAS, หน่วยงานด้านการกำกับดูแลทางการเงิน และธนาคารกลางของสิงคโปร์ ได่ร่วมกับรัฐอานธรประเทศซึ่งเป็นรัฐที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ซึ่งมีประวัติในการให้การต้อนรับการลงทุนและความร่วมมือจากต่างประเทศในการตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานขึ้นภายในขอบเขตของรัฐเป็นอย่างดี

จากข่าวประชาสัมพันธ์ที่ธนาคารกลางของสิงคโปร์เผยแพร่ออกมาเผยถึงความร่วมมือดังกล่าวว่า “เป็นโครงการร่วมมือด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เช่น การชำระเงินดิจิตอล และบล็อกเชน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเกี่ยวกับบล็อกเชนเทคโนโลยีต้นแบบที่อยู่เบื้องหลังบิทคอยน์

นอกจากนี้ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวจะมีการพัฒนาหลักสูตรทางด้านฟินเทคเพื่อเป็นโปรแกรมการศึกษาในรัฐอานธรประเทศของอินเดียอีกด้วย

Sopnendu Mohanty หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านฟินเทคที่ MAS เปิดเผยถึงเหตุผลของสิงคโปร์ในการสร้างความร่วมมือในครั้งนี้ว่าเกิดจากจากมุมมองของ MAS ที่กำลังหาทางสร้างตลาดในอินเดียสำหรับโซลูชั่นทางด้านฟินเทคที่สิงคโปร์พัฒนาขึ้น ซึ่งนี้อาจจะช่วยฟินเทคสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ที่กำลังมองหาทางเข้าไปลงทุนในอินเดียได้

เมื่อเร็วๆ นี้หนึ่งในเรื่องราวใหญ่โตที่สุดของภาคการเงินและการธนาคารของอินเดียก็คือการค้นพบว่าบัตรเดบิต 3.2 ล้านใบเจอปัญหาด้านความปลอดภัยจากการโจมตีของมัลแวร์  Mohanty ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อคเชนเป็นวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวในประเทศที่มีการออกบัตรเดบิตถึง 697 ล้านใบในเดือนกรกฏาคม 2016

นอกจากนี้โครงการนำร่องด้านบล็อกเชนยังจะถูกใช้โดยหน่วยงานด้านการสนับสนุนทางอาหารและพลเรือนของรัฐเพื่อหยุดยั้งปัญหาการโจรกรรมเงินทุนอีกด้วย สื่อแห่งหนึ่งของอินเดียเปิดเผยว่า JA Chowdary ที่ปรึกษาด้านไอทีให้กับมุขมนตรีของรัฐระบุว่าตามแผนของรัฐบาลจะมีการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในหน่วยงานด้านการสนับสนุนพลเรือนของรัฐอานธรประเทศในการทดสอบโครงการนำร่อง “เพื่อการเบิกจ่ายเงิน”

สิงคโปร์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นประเทศที่มีความพยายามก้าวไปข้างหน้าโดยอาศัยเทคโนโลยีกำลังให้ความสนใจกับนวัตกรรมของบิทคอยน์ และบล็อคเชน ในช่วงปลายปี 2015 นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ นายลี เซียนลุง กล่าวว่าบิทคอยน์ และเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นนวัตกรรมที่จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการธนาคาร

ขณะเดียวกันธนาคารเอกชนอินเดียยังมีการพัฒนาโซลูชั่นบล็อกเชนในการโอนเงินและอุตสาหกรรมทางด้านการค้าเงิน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีโครงการนำร่องด้านบล็อกเชนหลายๆ โครงการประสบความสำเร็จ ในขณะที่ผู้ให้บริการด้านไอทียักษ์ใหญ่รายหนึ่งเปิดเผยขณะนี้มีการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนกว่า 100 โครงการ