ไอบีเอ็มกำลังทำงานร่วมกับเอเวอร์เล็ดเจอร์ (Everledger) บริษัทสตาร์ทอัปน้องใหม่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2015 เพื่อพัฒนาบริการแบบใหม่โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อคเชน ภายใต้แนวทางการทำงานแบบอิโคซิสเต็ม ปัจจุบันเอเวอร์เล็ดเจอร์สามารถติดตามเพชรแต่ละเม็ดในขั้นตอนต่างๆ ของซัพพลายเชน ตั้งแต่ยังเป็นเพชรดิบที่ผ่านการรับรองไปจนถึงขั้นตอนที่เพชรเม็ดเดียวกันนั้นได้รับการเจียระไน ขัดเงา และจำหน่าย พันธมิตรในบล็อคเชนของเอเวอร์เล็ดเจอร์ประกอบด้วยบริษัทประกันภัย สถาบันการเงิน และสถาบันรับรองเพชร โดยพันธมิตรแต่ละรายสามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลเพื่อช่วยติดตามเพชรแต่ละเม็ดได้ตลอดช่วงอายุโดยผ่านเอพีไอ (Application Programming Interfaces) ของเอเวอร์เล็ดเจอร์ ขณะที่รายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัย และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ จะได้รับการจัดเก็บแบบส่วนตัวและต้องได้รับอนุญาตเพื่อเข้าถึง
โมเดลธุรกิจลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้มีส่วนร่วมทุกรายสามารถลดความเสี่ยง อีกทั้งยังนำสู่โมเดลของรายได้และบริการทางการเงินแบบใหม่ กล่าวคือ ธนาคารจะสามารถให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ซัพพลายเชนของเพชรดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนบริษัทประกันภัยก็สามารถเลือกให้ความคุ้มครองตลอดช่วงอายุของเพชร แทนที่จะให้ความคุ้มครองเฉพาะแค่เจ้าของรายปัจจุบัน เอเวอร์เล็ดเจอร์แสดงถึง “พลังของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มความร่วมมือทางธุรกิจมาผนึกกำลังร่วมกัน” จวบจนถึงปัจจุบัน มีเพชรมากกว่าหนึ่งล้านเม็ดที่ได้รับการติดตามตรวจสอบผ่านเอเวอร์เล็ดเจอร์ และยังมีโครงการระยะเบต้าสำหรับการติดตามที่มาในอุตสาหกรรมไวน์ราคาแพงที่จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

You must be logged in to post a comment.