ชื่อของ Leanne Kemp เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางหลังจากเธอไปปรากฏตัวบนเวทีสัมมนายักษ์ใหญ่ของไอบีเอ็มอย่าง Edge Conference ในสหรัฐอเมริกา โดย Leanne Kemp คือผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ EverLedger สตาร์ทอัปน้องใหม่วัย 2 ขวบที่มีพนักงานในทีมเพียง 20 คน แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า เธอจะเป็นคนเล็ก ๆ เหมือนที่ขนาดขององค์กรเธอเป็นอยู่ เพราะเธอคือผู้คิดค้น และนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการติดตามและปกป้องเพชร รวมถึงทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ

โดยเธอให้คำนิยามกับบริษัทของตัวเองอย่างEverLedger ว่าเป็นบริษัทดิจิตอลที่ช่วยให้การซื้อขายเพชรเกิดขึ้นอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ รวมถึงช่วยปกป้องทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงเหล่านี้จากการถูกโจรกรรม หรือการฉ้อโกงต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้โดยมีการนำ AI และ machine learning เข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดการบันทึก footprint ของเพชรแต่ละเม็ดเอาไว้ ข้อมูลเหล่านี้จะติดตามเพชรดังกล่าวไปทุกหนทุกแห่ง และทำให้การซื้อขายเพชร เกิดความโปร่งใส ยากที่จะฉ้อโกงได้

โดยลูกค้าของ EverLedger มีทั้งธนาคาร บริษัทประกันภัย รวมถึงบรรดาสถาบันที่ให้การรับรองเพชรรวมอยู่ด้วย

ปัจจุบัน เทคโนโลยีของ EverLedger ถูกนำไปใช้ยืนยันตัวตนของเพชรกว่า 1 ล้านเม็ดทั่วโลก  และทำให้บริษัทได้รับรางวัลจากเวทีต่าง ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น the 2015 BBVA Europe Open Talent Competition, the 2015 Meffy Awards และ the 2016 Fintech Finals

การพัฒนาเทคโนโลยีติดตามเพชรของ EverLedger  มีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตเพชรมูลค่า 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นได้อีกมาก เนื่องจากที่ผ่านมา มักมีปัญหาฉ้อโกง และปัญหาเรื่องแหล่งที่มาของเพชรเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัยที่มักเจอการฉ้อโกงเพชร และมีค่าใช้จ่ายเพื่อต่อกรกับปัญหาดังกล่าวถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

นอกจากนี้ยังอาจนำไปใช้งานกับทรัพย์สินที่มีมูลค่าอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น อัญมนีอื่น  ๆ ผลงานศิลปะ ไวน์ หรืองานฝีมือหายาก

“เรารู้ดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการค้าเพชร และเราก็มีความสามารถมากพอที่จะบอกว่า เฮ้ เราพบเทคโนโลยีที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้แล้วนะ”

ที่ผ่านมา Kemp สร้างสตาร์ทอัปมาแล้วหลายแห่ง และประสบความสำเร็จด้วยดี สามารถทำเงินจากการขายกิจการได้ เธอสร้าง EverLedger จากเงินทุนส่วนตัว และได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน 2015 Barclays Accelerator program โดยสตาร์ทอัปที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะได้รับเงินทุนสนับสนุน 120,000 เหรียญสหรัฐด้วย

อย่างไรก็ดี เป้าหมายของ Kemp คือการเพิ่มจำนวนเพชรในระบบจาก 1 ล้านเป็น 10 – 30 ล้านเม็ด และการหาทางว่าจะทำอย่างไรให้การสเกลนี้มาพร้อมกับระบบที่มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย หรือจะต้องทำอย่างไรจึงจะออกไปบุกตลาดโลกได้ เหล่านี้ต่างหาก