กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง (Medium-Term Business Plan) ครอบคลุมการดำเนินงานในปี 2561-2563 ตอกย้ำเป้าหมายการเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของไทย ด้วยการผนึกพลังความแข็งแกร่งของบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ป และการผสานพลังศักยภาพเครือข่ายทั่วโลกของ MUFG โดยกรุงศรีจะใช้กลยุทธ์ในการเสริมสร้างและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม เสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการดำเนินตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับแรกที่ครอบคลุมปี 2558-2560 ซึ่งรวมถึงการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยที่ 15.6% และกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 18.3% ต่อปี นอกจากนี้ กรุงศรียังได้รับการประกาศเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย”
“แผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ที่ครอบคลุมปี 2561-2563 ถูกกำหนดจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป ผนวกกับความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในปัจจุบัน โดยกรุงศรีจะมุ่งเน้นกลยุทธ์การดำเนินงานสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
1) ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด Digital First ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับนวัตกรรม สร้างความร่วมมือด้าน FinTech
2) สร้างประสบการณ์เหนือระดับเพื่อให้ลูกค้าใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
3) เสริมสร้างศักยภาพด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการยกระดับกระบวนการทำงาน ปรับโครงสร้างเพื่อการบริการกลุ่มลูกค้าธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
“ในการส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า กรุงศรีจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจทั้งด้านลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ด้วยการริเริ่มโครงการใหม่ๆ อาทิ การปรับโครงสร้างและกระบวนการปฏิบัติงาน การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน รวมทั้งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการเงิน นอกจากนี้ กรุงศรีได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลและฟินเทคมาใช้เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและรูปแบบการให้บริการทางการเงินสำหรับอนาคต” นายโกโตะกล่าว
สำหรับปี 2561 กรุงศรีได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 6-8% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตที่ 5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ระดับ 3.5-3.7% โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5%”
นอกจากนี้หากใครจำได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเคยมีการพูดถึง หลักกลยุทธ์ในการดำเนินงานทางด้านดิจิทัลและอินโนเวชั่น 7 ประการ หรือที่เรียกว่า 7 Pillars ซึ่งน่าจะมีการเกี่ยวข้องกันแนวคิด Digital First อยู่พอสมควร ด้วยเหตุนี้ทีมงาน Thai FinTech จึงของหยิบเอาหลักกลยุทธ์ทั้ง 7 ประการมานำเสนออีกครั้ง ประกอบด้วย
- Multi Channel/Omni Channel
- Branch Transformation
- Process Digitization
- Digital Marketing/Social Media
- Innovation Culture
- FinTech & Startup Experiment
- National E-Payment
ปัจจุบัน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย ด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 72 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 700 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 663 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 8.5 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
You must be logged in to post a comment.