Silot Pte. Ltd. (หรือที่รู้จักในชื่อ Silot) เปิดเผยว่า การระดมทุนรอบ Pre-Series A เสร็จสิ้นลงอย่างสวยงาม โดยสามารถระดมทุนได้ 2.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Arbor Ventures และ Eight Roads Ventures การระดมทุนครั้งนี้มีขึ้นที่ได้ระดมทุนช่วงแรกที่เพิ่งเริ่มต้นจาก ZhenFund เมื่อช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งแรกของนักลงทุนที่ใช้เงินตัวเองมาร่วมลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Arbor Ventures เป็นที่รู้จักในวงกว้างว่าเป็นกลุ่มการร่วมทุนที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีทางการเงินรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเหล่านักลงทุนและเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ด้านองค์กรรายใหญ่ ขณะที่ Eight Roads Ventures เป็นแผนกด้านการลงทุนที่มี Fidelity International Limited เป็นเจ้าของ Silot ได้รับเลือกจากทีมงานอาวุโสด้านการลงทุนของ Eight Roads Ventures และเป็นหนึ่งในกลุ่มสตาร์ทอัพที่เริ่มก่อตั้งเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับเลือกให้ลงทุน โดยหลักๆ แล้วการระดมทุนรอบPre-Series A ครั้งนี้จะมีขึ้นเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของ Silot ในประเทศไทย มาเลเซีย ฮ่องกง และตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค

เหว่ย โฮปแมน ผู้ร่วมก่อตั้งและพันธมิตรด้านการบริหารของ Arbor Ventures กล่าวว่า:”ทีม Silot มีความรู้ในตลาดที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการเข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินชื่อดังผ่านการผนวกรวมโซลูชั่นและเทคโนโลยีแบบครบวงจร เราเชื่อว่า Silot จะเป็นผู้นำในการพัฒนาการชำระเงินบนมือถือที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่งและมีการเลือกรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกได้อย่างมีศักยภาพ”

“เครือข่ายและทักษะความรู้ในอุตสาหกรรมที่มีอยู่มากมายของ Arbor Ventures และ Eight Roads Venturesจะทำให้ Silotมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการยกสถานะและเติบโตมากขึ้น”นายแอนดี้ ลี ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Silot กล่าว ก่อนที่จะมีการจัดตั้ง Silot ขึ้น แอนดี้ เป็นผู้นำการขยายตัวทั่วโลกของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Baidu, Sohu, SEA Group และ Kingsoft”ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญ Silot เปิดรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมแบบไร้เงินสดด้วยการรุกสร้างระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในการมอบบริการทางการเงินที่มีคุณภาพและหลากหลายให้กับสถาบันต่าง ๆ หลายแห่ง”

มอบพลังการดำเนินงานแก่สถาบันการเงินผ่านการเชื่อมต่อการทำงานด้วยบิ๊กดาต้าและปัญญาประดิษฐ์

ในปีต่อ ๆ ไป เทคโนโลยีจะยิ่งมีบทบาทในบริการด้านการเงินมากยิ่งขึ้นอีก โดยมีสถาบันการเงิน (FI) ที่ลงทุนในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลเทคโนโลยีทางการเงินเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น มีการหยุดชะงัก หรือการแทนที่กลไกด้านการธนาคารแบบเดิม ๆ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวและการลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการเงินอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ KPMGเปิดเผยว่า การลงทุนในเทคโนโลยีทางการเงินในสิงคโปร์แตะที่ 83.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในไตรมาส 2 ของปีพ.ศ. 2560 ดังนั้น สถาบันการเงินต่าง ๆ จำเป็นต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคารในปัจจุบันเพื่อรักษาขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาวและเพื่อปรับตัวตามความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น

Silot ให้บริการแพลตฟอร์มด้านการธนาคารแบบครบวงจรที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเร่งการเติบโตของสถาบันการเงินผ่านผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานและเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ทั้งนี้ Silot เชื่อมต่อการทำงานด้านการชำระเงิน การเริ่มกระบวนการทำงานใหม่การดำเนินธุรกิจ และการต่อต้านการทุจริต / การต่อต้านการฟอกเงิน (AF/AML)

ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี ทีมงานของ Silot ได้ขยายแพลตฟอร์มด้านการธนาคาร(Silot Banking Platform หรือ SBP) ของ Silot ไปยังธนาคารหลายแห่งในประเทศไทยและมาเลเซีย และดึงดูดพันธมิตรที่มีชื่อเสียงอย่าง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และวีซ่า เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกรรมด้านการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีความปลอดภัยที่ได้รับการทดสอบและสามารถเปิดตัวธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ SBPช่วยมอบอำนาจการดำเนินงานแก่สถาบันการเงินโดยให้บริการที่สำคัญ 3 ส่วน ดังนี้

– Silot Payment Engine – ระบบการชำระเงินแบบครบวงจรที่สนับสนุนวิธีการชำระเงินหลัก ๆ (ทั้งการชำระเงินผ่านบัตรแบบเก่าและการชำระเงินบนมือถือในรูปแบบใหม่) ในตลาด

– Silot Merchant Suite – แพลตฟอร์มแนะนำการเริ่มกระบวนการทำงานใหม่และการจัดการด้านการค้าแบบครบวงจรที่สามารถใช้สำหรับทำการค้าได้ทุกช่องทางการชำระเงิน

– Silot Guardian – ระบบต่อต้านการทุจริตและต่อต้านการฟอกเงินแบบครบวงจรที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันกิจกรรมต่าง ๆ ในการดำเนินงานและการทำธุรกรรมผ่านทุกช่องทางการชำระเงิน

SBP ใช้โซลูชั่นบล็อกเชน Silot Connect ซึ่งมอบอำนาจการดำเนินงานแก่ธนาคาร พันธมิตร และ Silot เอง ด้วยการแบ่งปันข้อมูลที่ปลอดภัยและระบบนิเวศด้านการเงินที่ครอบคลุมซึ่งช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญในการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะและการทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (KYC) ข้อมูลที่ SBP เก็บรวบรวมไว้สามารถนำไปใช้ในการระบุโอกาสด้านเงินกู้ทางการเงินและความเสี่ยงในบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางได้อีกด้วย

ที่มา : พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์