You are here
Home > Top Story > Krungthai COMPASS นำเสนอบทวิเคราะห์เรื่อง “ส่องความท้าทายของผู้ประกอบการ หลังภาครัฐแบนนำเข้าเศษพลาสติก ”

Krungthai COMPASS นำเสนอบทวิเคราะห์เรื่อง “ส่องความท้าทายของผู้ประกอบการ หลังภาครัฐแบนนำเข้าเศษพลาสติก ”

ผลจากมาตรการห้ามนำเข้าเศษพลาสติกที่จะเริ่มทยอยลดลงในปี 2566-2567 และยกเลิกการนำเข้าเศษพลาสติกทั้งหมดในปี 2568 กอปรกับราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง คาดจะส่งผลให้ราคาขยะพลาสติกภายในประเทศอยู่ในช่วง 14.8-15.8 บาทต่อกิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 10%-17% เมื่อเทียบกับราคาขยะพลาสติกในปี 2565 โดยราคาขยะพลาสติกที่ปรับขึ้นจะส่งผลบวกต่อธุรกิจร้านรับซื้อของเก่าที่ขายให้โรงงานรีไซเคิล แต่คาดว่าจะส่งผลลบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงงานรีไซเคิลลดลงราว 10% ต่อกิโลกรัม

ในระยะสั้นอาจเกิดภาวะอุปทานขยะพลาสติกตึงตัว อย่างไรก็ดี หากไทยมีระบบจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ปริมาณขยะพลาสติกภายในประเทศเพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศสูงถึงราว 1.2-1.4 แสนล้านบาทต่อปี และหากไทยนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี 2570 หรือราว 1.5 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก1.55 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเทียบเท่าการปลูกป่า 1.3 ล้านไร่ หรือราว 1.3 เท่าของพื้นที่กรุงเทพฯ

Krungthai COMPASS แนะนำผู้ประกอบการจำเป็นต้องเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% ขณะที่ภาครัฐควรออกมาตรการคัดแยกขยะจากต้นทาง รวมทั้งส่งเสริมการใช้ขยะพลาสติกภายในประเทศมากขึ้น

Top